ความชื้นของอากาศ
ความชื้นของอากาศ
อากาศมีความชื้น
เพราะมีไอน้ำ ความชื้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณของไอน้ำในอากาศนั่นเอง
ความชื้นของอากาศ หมายถึง ปริมาณไอน้ำที่ปะปนอยู่ในอากาศได้มาจากแหล่งการระเหยของน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆบนโลก
การคายน้ำของพืช ตลอดจนการหายใจของสัตว์ ทำให้เกิดไอน้ำซึ่งเรามองไม่เห็นเนื่องจากมีสถานะเป็นแก๊สล่องลอยอยู่ทั่วไปในอากาศ อากาศทุกหนทุกแห่งมีไอน้ำแทรกตัวปะปนอยู่
แต่อาจมีปริมาณมากน้อยต่างกัน ปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศเราเรียกว่า ความชื้นของอากาศ
ความชื้นของอากาศในวันหนึ่งๆจะเปลี่ยนแปลงโดยมีความชื้นของอากาศสูงในเวลากลางคืนและตอนเช้า
เพราะอุณหภูมิของอากาศต่ำจึงรับไอน้ำในอากาศได้น้อย
ส่วนในตอนกลางวันอุณหภูมิของอากาศสูงขึ้นจึงรับไอน้ำได้อีกมาก
ลักษณะภูมิอากาศร้อนชื้น
ลักษณะภูมิอากาศแห้ง
หรืออาจกล่าวได้ว่า
ถ้าความชื้นในอากาศมีมากการระเหยของน้ำจากแหล่งต่างๆจะน้อย
เสื้อผ้าที่ตากจะแห้งช้า หรือรู้สึกเหนียวตัวและอึดอัด
แต่ถ้าความชื้นในอากาศมีน้อยหรืออากาศแห้ง จะรู้สึกเย็นสบาย เสื้อผ้าแห้งง่าย
จนถึงบางครั้งผิวหนังแห้งและแตก
ค่าความชื้นของอากาศ โดยทั่วไปมีวิธีบอกความชื้นของอากาศได้
2 วิธี คือ
1.ความชื้นสัมบูรณ์ หมายถึง อัตราส่วนระหว่างมวลของไอน้ำในอากาศกับปริมาตรของอากาศนั้น
ตัวอย่างเช่น
ถ้าทราบว่าขณะนั้นในอากาศ 5 ลูกบาศก์เมตรมีไอน้ำอยู่
15 กรัม แสดงว่าความชื่นสัมบูรณ์ของอากาศขณะนั้นเป็น 3
กรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2.ความชื้นสัมพัทธ์ คือ ปริมาณเปรียบเทียบระหว่างมวลของไอน้ำที่มีอยู่จริงในอากาศขณะนั้นกับ
มวลของไอน้ำในอากาศอิ่มตัวที่อุณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน
ความชื้นสัมพัทธ์มักแสดงเป็นร้อยละซึ่งแสดงได้ดังนี้
เช่น
ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสอากาศอิ่มตัวด้วยไอน้ำ
160 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ในขณะนั้นมีไอน้ำอยู่เพียง 120
กรัมต่อลูกบาศก์เมตรดังนั้น ความชื้นสัมพัทธ์ทางอากาศ
ความชื้นในอากาศเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ถ้าความชื้นในอากาศมีมากจะทำให้เหงื่อที่ตัวเราระเหยได้
น้อย ทำให้เหนียวตัวและรู้สึกอึดอัด
น้ำจากแหล่งน้ำต่างๆจะระเหยสู่อากาศได้น้อย ผ้าที่ซักตากไว้จะแห้งช้า
แต่ถ้าความชื้นในอากาศน้อยหรืออากาศแห้ง เหงื่อที่ตัวเราจะระเหยได้มากทำให้รู้สึกเย็น
จนบางครั้งทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก น้ำจากแหล่งน้ำต่างๆระเหยได้ง่ายและผ้าที่ตากไว้จะแห้งเร็ว
การวัดความชื้น
ในการวัดความชื้นสัมพัทธ์ เราใช้เครื่องมือซึ่งเรียกว่า ไฮโกรมิเตอร์(Hygrometer) ซึ่งมีอยู่หลายชนิด
มีทั้งทำด้วยกระเปาะเทอร์โมมิเตอร์และเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไฮโกรมิเตอร์ซึ่งสามารถทำได้เองและมีความน่าเชื่อถือเรียกว่าไฮโกรมิเตอร์(Hygrometer) (Sling psychrometer) ประกอบด้วยเทอร์โมมิเตอร์จำนวน 2 อันอยู่คู่กัน โดยมีเทอร์โมมิเตอร์อันหนึ่งมีผ้าชุบน้ำหุ้มกระเปาะไว้
เรียกว่า “กระเปาะเปียก” (Wet bulb) ส่วนกระเปาะเทอร์โมมิเตอร์อีกอันหนึ่งไม่ได้หุ้มอะไรไว้ เรียกว่า “กระเปาะแห้ง”
(Dry bulb) เมื่อหมุนสลิงไซโครมิเตอร์จับเวลา 3 นาที แล้วอ่านค่าแตกต่างของอุณหภูมิกระเปาะทั้งสองบนตารางเปรียบเทียบ ก็จะได้ค่าความชื้นสัมพัทธ์
มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์
ไฮโกรมิเตอร์(Hygrometer)
ไฮโกรมิเตอร์(Hygrometer)
1. ที่อุณหภูมิ 30
องศาเซลเซียส อากาศอิ่มตัวด้วยไอน้ำ
160 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
แต่ในขณะนั้นมีไอน้ำเพียง 140 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
จงหาความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศ
วิธีคิด
ความชื้นสัมพัทธ์ = มวลไอน้ำจริง
(กรัม/ลูกบาศก์เมตร) x 100
มวลไอน้ำอิ่มตัว(กรัม/ลูกบาศก์เมตร)
มวลไอน้ำอิ่มตัว(กรัม/ลูกบาศก์เมตร)
=
140 x 100
160
160
ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 87%
2.
ภายในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งมีปริมาตร
200 ลูกบาศก์เมตร และมีไอน้ำแผ่กระจายอยู่
2,000 กรัม ความชื้นสัมบูรณ์ภายในห้องปฏิบัติการมีค่าเท่าไร
วิธีคิด ความชื้นสัมบูรณ์ = มวลไอน้ำในอากาศ (กรัม)
ปริมาตรอากาศ (ลูกบาศก์เมตร)
ปริมาตรอากาศ (ลูกบาศก์เมตร)
= 2,000 กรัม
200 ลูกบาศก์เมตร
200 ลูกบาศก์เมตร
ความชื้นสัมบูรณ์ = 10 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
3.
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส
อากาศอิ่มตัวมีไอน้ำ 18 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
แต่มีไอน้ำจริงในอากาศขณะนั้นเพียง 12 กรัม/ลูกบาศก์เมตร จงหาค่าความชื้นสัมพัทธ์
วิธีคิด ความชื้นสัมพัทธ์ = มวลไอน้ำจริง (กรัม/ลูกบาศก์เมตร) x
100
มวลไอน้ำอิ่มตัว(กรัม/ลูกบาศก์เมตร)
มวลไอน้ำอิ่มตัว(กรัม/ลูกบาศก์เมตร)
=
12 x 100
18
18
ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 33.33 %
4.
ความชื้นสัมบูรณ์ของอากาศมีค่า 60 กรัม/ลูกบาศก์เมตร ในขณะที่อากาศแห้งนี้สามารถรับไอน้ำได้เต็มที่ 100
กรัม/ลูกบาศก์เมตร ความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศมีค่าเท่าใด
วิธีคิด ความชื้นสัมพัทธ์ = มวลไอน้ำจริง (กรัม/ลูกบาศก์เมตร) x 100
มวลไอน้ำอิ่มตัว(กรัม/ลูกบาศก์เมตร)
วิธีคิด ความชื้นสัมพัทธ์ = มวลไอน้ำจริง (กรัม/ลูกบาศก์เมตร) x 100
มวลไอน้ำอิ่มตัว(กรัม/ลูกบาศก์เมตร)
=
60 x 100
100
100
ความชื้นสัมพัทธ์ = 60 %
5.
ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส
อากาศ 10 ลูกบาศก์เมตร มีไอน้ำ 80
กรัม แต่ถ้าทำให้อากาศอิ่มตัวรับไอน้ำได้เต็มที่
240 กรัม จงหาความชื้นสัมบูรณ์และความชื้นสัมพัทธ์
วิธีคิด ความชื้นสัมบูรณ์ = มวลไอน้ำในอากาศ (กรัม)
ปริมาตรอากาศ (ลูกบาศก์เมตร)
วิธีคิด ความชื้นสัมบูรณ์ = มวลไอน้ำในอากาศ (กรัม)
ปริมาตรอากาศ (ลูกบาศก์เมตร)
=
80 กรัม
10 ลูกบาศก์เมตร
10 ลูกบาศก์เมตร
ความชื้นสัมบูรณ์(เมื่ออากาศอิ่มตัว) = มวลไอน้ำอิ่มตัวในอากาศ (กรัม)
ปริมาตรอากาศ (ลูกบาศก์เมตร)
ปริมาตรอากาศ (ลูกบาศก์เมตร)
= 240 กรัม
10 ลูกบาศก์เมตร
10 ลูกบาศก์เมตร
มวลไอน้ำอิ่มตัวที่อุณหภูมิและความดันเดียวกันคือ 24 กรัม/ลูกบาศก์เมตร
ความชื้นสัมพัทธ์ = มวลไอน้ำจริง
(กรัม/ลูกบาศก์เมตร) x 100
มวลไอน้ำอิ่มตัว(กรัม/ลูกบาศก์เมตร)
มวลไอน้ำอิ่มตัว(กรัม/ลูกบาศก์เมตร)
= 8 x 100
24
24
ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 33.33 %
งงครับ
ตอบลบวิธีการวัดมวลไอน้ำจริงวัดยังไงครับ
ลบถ้ามีความชื้น 18 กรัม ไอน้ำจะเท่าไหรครับ
ตอบลบมั่วจัดข้อ3ก็ผืด
ตอบลบ